ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ อยู่ได้นานแค่ไหน? ฉีดตำแหน่งไหนได้บ้าง?

     การฉีดฟิลเลอร์มีหลายยี่ห้อที่ใช้ในปัจจุบัน ซึ่งระยะเวลาที่ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหนนั้น ระยะเวลาที่ฟิลเลอร์คงอยู่ขึ้นอยู่กับประเภทของฟิลเลอร์และยี่ห้อที่ใช้ รวมถึงปัจจัยต่างๆ เช่น บริเวณที่ฉีดและกระบวนการเมตาบอลิซึมของแต่ละคน โดยทั่วไป ฟิลเลอร์ที่ประกอบด้วยไฮยาลูรอนิค เอซิด (HA) เช่น Juvederm และ Restylane จะมีอายุการใช้งานประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของฟิลเลอร์และบริเวณที่ฉีด

โปรแกรมฟิลเลอร์ Juvederm อยู่ได้นานกี่เดือน?

     Juvederm เป็นแบรนด์ฟิลเลอร์ชั้นนำจากสหรัฐอเมริกา ผลิตโดยบริษัท Allergan ซึ่งมีชื่อเสียงด้านคุณภาพและมาตรฐานการผลิตที่เข้มงวด ตัวฟิลเลอร์ถูกพัฒนาด้วยเทคโนโลยี Vycross ซึ่งช่วยให้สารเติมเต็มสามารถยกกระชับผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพและให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ พร้อมมีส่วนผสมของ LIDOCAINE (ยาชา) ในผลิตภัณฑ์เพื่อลดความเจ็บระหว่างการฉีด เพิ่มความสบายให้กับผู้รับบริการ

Juvederm มีหลายรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันในแต่ละจุดบนใบหน้า โดยผลลัพธ์จากการฉีด Juvederm สามารถคงอยู่ได้ยาวนานถึง 24 เดือน* ขึ้นอยู่กับชนิดของผลิตภัณฑ์และปริมาณที่ใช้

 Juvederm อยู่ได้นานประมาณ 8-12 เดือน แต่บางรุ่นอาจอยู่ได้นานถึง 24 เดือน 

โปรแกรมฟิลเลอร์ Restylane อยู่ได้นานกี่เดือน?

     Restylane เป็นฟิลเลอร์ประเภท Hyaluronic Acid แบรนด์แรกของโลกจากประเทศสวีเดน ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2539 และเป็นผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่มีการใช้งานยาวนานที่สุดในอุตสาหกรรมความงาม ทั้งยังได้รับการรับรองความปลอดภัยจากทั้ง US FDA และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งประเทศไทย (อย.) โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี NASHA™ และ OBT™ ที่ช่วยให้ผลลัพธ์ของการเติมเต็มผิวเป็นไปอย่างเรียบเนียนและดูเป็นธรรมชาติ

ด้วยประสบการณ์การใช้งานที่มีมายาวนานกว่า 25 ปี และการยอมรับจากแพทย์ด้านความงามทั่วโลก Restylane ได้ถูกใช้ไปแล้วมากกว่า 50 ล้านครั้งในการทรีตเมนต์ต่าง ๆ ซึ่งเป็นการยืนยันถึงคุณภาพและความน่าเชื่อถือ

 Restylane อยู่ได้นานประมาณ 8-12 เดือน แต่บางรุ่นอาจอยู่ได้นานถึง 24 เดือน

โปรแกรมฟิลเลอร์ Volifill อยู่ได้นานกี่เดือน?

   Volifill (โวลิฟิล) เป็นฟิลเลอร์จากประเทศเกาหลี ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท BNC Korea โดย Volifill ได้รับความนิยมในกว่า 30 ประเทศในยุโรป แสดงถึงมาตรฐานความปลอดภัยและคุณภาพที่ได้รับการรับรองจากทั้งองค์กรควบคุมยุโรป สหรัฐอเมริกา และไทย โดยในประเทศไทย ฟิลเลอร์นี้ได้รับการนำเข้าและจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการโดยบริษัทบอน–ซอง จำกัด

Volifil ใช้เทคโนโลยี HCCL™ (Highly Completed Cross-Linking) ซึ่งช่วยลดการใช้สาร BDDE ทำให้การฉีด Volifill มีความเสี่ยงต่อการบวมและอาการข้างเคียงต่ำ และไม่ทิ้งสารตกค้างที่อาจเป็นอันตรายต่อร่างกาย ฟิลเลอร์นี้ยังผลิตด้วยกระบวนการ Particle Plastic Process ที่ทำให้ขนาดของโมเลกุลฟิลเลอร์มีความสม่ำเสมอ ช่วยให้ผลลัพธ์หลังฉีดดูเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ

Volifill อยู่ได้นานประมาณ 9-12 เดือน

โปรแกรมฟิลเลอร์ Belotero อยู่ได้นานกี่เดือน?

     Belotero (เบโลเทโร่) เป็นฟิลเลอร์จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่โดดเด่นด้วยบรรจุภัณฑ์สีสันสดใสซึ่งช่วยแยกประเภทฟิลเลอร์แต่ละรุ่นได้ชัดเจน ทำให้ Belotero ได้รับอีกชื่อว่า "Colorful Filler" โดยผลิตภัณฑ์นี้ได้นำเข้าและจัดจำหน่ายในประเทศไทยโดยบริษัท Merz Aesthetic Thailand

Belotero ผลิตด้วยเทคโนโลยี CPM (Cohesive Polydensified Matrix) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีจดสิทธิบัตรเฉพาะของแบรนด์ ช่วยให้โมเลกุลของฟิลเลอร์มีความหนาแน่นและยืดหยุ่นสูง ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีความเนียนละเอียดไม่จับตัวเป็นก้อน ผลลัพธ์หลังฉีดจึงดูเป็นธรรมชาติ สามารถเติมเต็มริ้วรอยและร่องลึก รวมถึงช่วยปรับโครงหน้าให้มีมิติมากยิ่งขึ้น

ฟิลเลอร์ Belotero ยังได้รับการรับรองมาตรฐานและขึ้นทะเบียนจากหน่วยงานด้านความปลอดภัยในสหรัฐอเมริกา (FDA) ยุโรป และประเทศไทย ทำให้ Belotero เป็นฟิลเลอร์ที่ได้รับความเชื่อถือสูงด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพ

Belotero อยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน แต่บางรุ่นอาจอยู่ได้นานถึง 18 เดือน

โปรแกรมฟิลเลอร์ Flore อยู่ได้นานกี่เดือน

     Flore Filler เป็นฟิลเลอร์จากเกาหลีที่ได้รับการนำเข้าและจัดจำหน่ายในประเทศไทยโดยบริษัท บอน–ซอง จำกัด (Bon-Song Company Limited) โดดเด่นด้วยมาตรฐานความปลอดภัยที่เข้มงวดผ่านการตรวจสารตกค้างถึง 4 ครั้ง ทำให้ฟิลเลอร์มีความบริสุทธิ์สูงและปลอดภัยจากสารก่อมะเร็ง Flore Filler ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาในไทย เกาหลี ยุโรป และสหรัฐอเมริกา

ฟิลเลอร์ Flore ใช้เทคโนโลยี HCCL™ (Highly Completed Cross-Linking) ในการเชื่อมโมเลกุล ผสมผสานทั้ง Cross-linked HA และ Non Cross-linked HA ในโครงสร้างแบบ 3D Max ทำให้ฟิลเลอร์ขึ้นรูปทรงได้ดี คงตัวและไม่เคลื่อนที่ไปยังบริเวณอื่น ช่วยให้ผลลัพธ์หลังการฉีดอยู่ได้นานขึ้น และด้วยเทคโนโลยี PP-Process (Particle Plastic Process) โมเลกุลฟิลเลอร์มีขนาดเท่ากัน ช่วยให้ฉีดได้ง่ายและเรียบเนียนไปกับผิว โดยเนื้อเจลของ Flore Filler ที่ผสานเนื้อฟิลเลอร์ทั้งแบบแข็งและแบบอ่อนช่วยให้ขึ้นรูปทรงได้ง่าย คงตัว ไม่เป็นก้อน และดูเป็นธรรมชาติ ผลลัพธ์ยังคงทนยาวนานและสลายตัวอย่างสม่ำเสมอ

Flore อยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน

ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น เหมาะกับการฉีดตำแหน่งไหนบ้าง?

     ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อและแต่ละรุ่นมีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับการฉีดในตำแหน่งต่างๆ บนใบหน้า โดยแต่ละรุ่นจะมีความหนาแน่น ความยืดหยุ่น และลักษณะเฉพาะของเนื้อเจลที่แตกต่างกัน ทำให้การเลือกใช้ฟิลเลอร์ในจุดที่เหมาะสมมีความสำคัญมากเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติที่สุด นี่คือตำแหน่งที่เหมาะสมของฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ

ฟิลเลอร์ Juvederm

• Juvederm Ultra Plus: ใช้สำหรับเติมเต็มริ้วรอยลึกและเพิ่มวอลลุ่มริมฝีปาก มีความหนืดสูงเหมาะกับการเพิ่มปริมาตร
  
• Juvederm Voluma: เหมาะสำหรับการฟื้นฟูปริมาณใบหน้า เช่น บริเวณแก้มและใบหน้ากลาง ให้ผลยกกระชับอย่างธรรมชาติ
  
• Juvederm Volift: ฟิลเลอร์ที่มีความหลากหลาย ใช้สำหรับร่องลึก ริ้วรอยปานกลาง และเพิ่มวอลลุ่มริมฝีปาก
  
• Juvederm Volite: ใช้สำหรับเพิ่มความชุ่มชื้นและปรับผิวให้เนียนเรียบ เหมาะสำหรับใบหน้า ลำคอ และเนินอก
  
• Juvederm Volbella: ออกแบบเพื่อเติมริมฝีปากแบบธรรมชาติและแก้ไขรอยย่นรอบริมฝีปาก
  
• Juvederm Volux: ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง ใช้สำหรับการสร้างกรอบหน้าและคาง เพิ่มมิติให้กับใบหน้าอย่างชัดเจน
  

ฟิลเลอร์ Restylane

• Restylane Defyne: เหมาะสำหรับการรักษาริ้วรอยลึก และร่องแก้มลึก ช่วยเพิ่มปริมาณใบหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ และรักษาความยืดหยุ่นในการเคลื่อนไหวของใบหน้า
  
• Restylane Vital Light: ใช้สำหรับเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ช่วยปรับสภาพผิวหน้า ลำคอ และมือ เหมาะสำหรับบริเวณที่บอบบาง
  
• Restylane Perlane Lyft: เหมาะสำหรับการฉีดริ้วรอยลึก ยกกระชับแก้ม และเพิ่มปริมาณให้กับใบหน้าช่วงกลาง
  
• Restylane Volyme: เหมาะสำหรับฟื้นฟูปริมาณใบหน้าและการสร้างมิติให้กับกรอบหน้าและแก้ม
  
• Restylane Vital: เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหน้า ลำคอ และมือ ปรับความยืดหยุ่นของผิวและช่วยให้เรียบเนียน
  
• Restylane Classic: ใช้สำหรับการฉีดเติมเต็มริ้วรอยบางจุด ร่องลึก รวมถึงการเติมริมฝีปาก
  
• Restylane Refyne: เหมาะสำหรับการรักษาริ้วรอยลึกแต่ยังคงรักษาการเคลื่อนไหวของใบหน้าให้เป็นธรรมชาติ
  
• Restylane Kysse: ใช้สำหรับการเติมริมฝีปาก ช่วยให้ริมฝีปากดูเป็นธรรมชาติและเพิ่มวอลลุ่มอย่างนุ่มนวล

ฟิลเลอร์ Volifill

• Volifill Classic: เหมาะสำหรับการเติมเต็มริ้วรอยเล็กๆ และการเติมวอลลุ่มให้กับริมฝีปาก
  
• Volifill Deep: ใช้สำหรับร่องลึกและการเพิ่มปริมาตรให้กับใบหน้ากลาง เช่น แก้มและร่องน้ำหมาก
  
• Volifill Sub-Q: ใช้สำหรับการสร้างกรอบหน้าและคาง ให้ใบหน้ามีความคมชัดและมิติมากขึ้น
  

ฟิลเลอร์ Flore

• Flore Full Aqua-S: ฟิลเลอร์สำหรับเติมเต็มริ้วรอยเล็กๆ และเพิ่มความชุ่มชื้น เหมาะกับบริเวณใต้ตา
  
• Flore Full S: เหมาะสำหรับการเติมเต็มริ้วรอยปานกลางและเพิ่มวอลลุ่มอย่างนุ่มนวลให้กับแก้ม
  
• Flore Full N: ใช้สำหรับการเติมเต็มและเพิ่มวอลลุ่มอย่างธรรมชาติในบริเวณใบหน้ากลาง
  
• Flore Full Max: เหมาะสำหรับการรักษาริ้วรอยลึก การเพิ่มปริมาณในบริเวณคางและกรอบหน้า
  
• Flore Full Max 1400: ฟิลเลอร์ที่มีความเข้มข้นสูง เหมาะสำหรับการเพิ่มปริมาตรให้กับใบหน้ากลางและกรอบหน้า
  

ฟิลเลอร์ Belotero Volume

• Belotero Volume: ฟิลเลอร์ที่มีความหนืดสูง เหมาะสำหรับการเพิ่มปริมาตรในบริเวณที่ต้องการความชัดเจน เช่น แก้มและคาง ช่วยฟื้นฟูโครงสร้างใบหน้าให้กลับมามีวอลลุ่มและดูอ่อนเยาว์ขึ้น เหมาะสำหรับการยกกระชับและเพิ่มมิติให้ใบหน้า
  
• Belotero Balance: ฟิลเลอร์เนื้อละเอียดที่เหมาะสำหรับการเติมเต็มริ้วรอยปานกลางถึงลึก เช่น ร่องแก้ม และรอยย่นรอบปาก ให้ผลลัพธ์ที่เรียบเนียนและดูเป็นธรรมชาติ สามารถใช้ได้ในหลายบริเวณทั่วใบหน้า
  
• Belotero Intense: ฟิลเลอร์ที่ออกแบบมาเพื่อเติมเต็มริ้วรอยลึกและร่องลึกที่ชัดเจน เช่น ร่องน้ำหมาก และรอยลึกบริเวณใบหน้า ฟิลเลอร์ตัวนี้มีความหนืดสูง ช่วยให้ผลลัพธ์ที่คงทนและเด่นชัด
  
• Belotero Soft: เหมาะสำหรับการแก้ไขริ้วรอยเล็กๆ หรือเติมเต็มในบริเวณที่บอบบาง เช่น รอยย่นรอบดวงตาและริมฝีปาก ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและปรับผิวให้เรียบเนียน เหมาะสำหรับการเติมความสดชื่นให้กับผิวหน้า
  Belotero Revive: เป็นฟิลเลอร์ที่มีส่วนผสมของไฮยาลูรอนิคแอซิด (HA) และกลีเซอรอล ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและปรับปรุงสภาพผิว เหมาะสำหรับการแก้ไขผิวหมองคล้ำและการฟื้นฟูความเรียบเนียนของผิว เหมาะกับบริเวณใบหน้าและลำคอ     
  

     การเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับตำแหน่งบนใบหน้านั้นขึ้นอยู่กับความหนาแน่นและเนื้อเจลของฟิลเลอร์ รวมถึงความต้องการเฉพาะของผู้รับบริการ การเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับแต่ละจุดจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและเป็นธรรมชาติ โดยควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินและวางแผนการรักษาให้เหมาะสมกับรูปหน้าของแต่ละบุคคล

เทคนิคการฉีดช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้นจริงหรือ?

     การฉีดฟิลเลอร์ด้วยเทคนิคที่เหมาะสมโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์สามารถช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้นได้จริง เทคนิคการฉีดมีผลต่อระยะเวลาที่ฟิลเลอร์จะอยู่ในชั้นผิว เนื่องจากการฉีดในชั้นผิวที่ถูกต้องและเหมาะสมสามารถช่วยให้ฟิลเลอร์กระจายตัวอย่างสม่ำเสมอและยึดติดกับเนื้อเยื่อได้ดี นอกจากนี้การฉีดฟิลเลอร์โดยแพทย์ผู้ชำนาญที่ใช้เทคนิคเฉพาะจะช่วยลดความเสี่ยงที่ฟิลเลอร์จะสลายเร็วเกินไป หรือเกิดการเคลื่อนที่ไปยังบริเวณอื่น ทำให้ผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์คงอยู่ได้นานยิ่งขึ้น

ทำยังไงให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น

หลังจากการฉีดฟิลเลอร์ การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมมีความสำคัญต่อผลลัพธ์ที่จะอยู่ได้นานขึ้น คำแนะนำที่สำคัญได้แก่

1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือกดจุดที่ฉีด ในช่วง 24 ชั่วโมงแรก
   
2. หลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อน เช่น การซาวน่า หรือการอาบน้ำร้อนจัดในช่วง 1-2 สัปดาห์หลังการฉีด
   
3. ดื่มน้ำมากๆ เพื่อให้สารไฮยาลูโรนิกแอซิดดูดซับน้ำและช่วยให้ผิวดูเรียบเนียน
   
4. งดการออกกำลังกายหนัก และกิจกรรมที่มีการเคลื่อนไหวมากในช่วง 1 สัปดาห์แรก
   
5. หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และยาบางชนิด ที่ทำให้เกิดการขยายหลอดเลือดและเพิ่มการบวมในบริเวณที่ฉีด

     การฉีดฟิลเลอร์เป็นหนึ่งในวิธีที่นิยมในการปรับรูปหน้าและลดริ้วรอย โดยแต่ละยี่ห้อจะมีความแตกต่างกันทั้งในด้านความหนาแน่นของเนื้อเจล ความยืดหยุ่น และความคงทน เทคนิคการฉีดที่ถูกต้องรวมถึงการดูแลตัวเองหลังการฉีด จะช่วยให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและอยู่ได้นานยิ่งขึ้น

จองคิววันนี้เพื่อปรึกษาฟรี!

เริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้คุณดูสดใสและอ่อนเยาว์ได้แล้ววันนี้!
สนใจโปรแกรมฟิลเลอร์เทคนิค AT TRI ติดต่อ Atom Clinic เลย!